100 วันแห่งการอธิษฐาน
วันที่ 64 แห่งการอธิษฐาน
“ความงดงามในความแตกสลาย”
โดย เมโลดี้ แมสัน
เมื่อหลายปีก่อนขณะที่ฉันกำลังเตรียมเพื่อนำการประชุมอธิษฐานสำหรับงานใหญ่ ฉันจะไม่มีวันลืมเรื่องนี้เลย พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทำให้ฉันตระหนักเห็นบางอย่างที่เจาะจงในชีวิตของฉัน ซึ่งฉันจะต้องทำสิ่งนั้นให้ถูกต้องตามสายพระเนตรของพระเจ้า ฉันคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความรู้สึกท่วมท้นในคืนนั้นและได้อธิษฐานว่า “พระองค์เจ้าข้า ได้โปรดอภัยให้ข้าพระองค์ด้วย…”
อย่างไรก็ตามในขณะที่ฉันกำลังสารภาพบาปต่อพระเจ้า มีขั้นตอนบางอย่างที่จำเป็นต้องแก้ไขให้ถูกต้อง แต่ฉันไม่สามารถทำตามขั้นตอนเหล่านั้นได้ในทันที ฉันจึงไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร ฉันควรจะยังคงดำเนินหน้าต่อไปกับความรับผิดชอบต่อพันธกิจการอธิษฐานหรือฉันควรจะหาคนอื่นให้นำรายการแทนฉันจนกว่าฉันจะทำให้ถูกต้องในสายพระเนตรของพระเจ้า
ในฐานะผู้นำที่ได้รับความเคารพในงานรับใช้ เป็นเรื่องน่าละอายใจมากที่จะยอมรับกับผู้อื่นว่าฉันได้ทำให้พระเจ้าผิดหวังในเรื่องที่สำคัญ ฉันไม่ต้องการปลุกกระแสและทำให้เพื่อนร่วมงานหรือคนแปลกหน้าอื่น ๆ ที่มาเข้าร่วมประชุมเห็นว่าจิตวิญญาณของฉันอ่อนแอ ฉันจึงนอนหลับในค่ำคืนนั้นด้วยจิตใจอันหนักอึ้งและหลับไปทั้งน้ำตา และตั้งใจว่าฉันจะขอคนอื่นให้ช่วยนำรายการอธิษฐานในวันถัดไป
อย่างไรก็ตาม เช้าวันรุ่งขึ้นในขณะที่ฉันออกไปเพื่อหาคนที่จะมานำรายการแทนฉัน พระเจ้าทรงหยุดฉันระหว่างทางและพระวิญญาณบริสุทธิ์เริ่มพูดในจิตใจฉันว่า “เมโลดี้ คุณต้องเป็นผู้นำการประชุมอธิษฐานในเช้านี้ ไม่ต้องหาใครมาพูดแทน”
“เดี๋ยวก่อนพระเจ้า…ไม่ได้หมายถึงที่พูดใช่ไหม” ฉันกล่าวออกไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพร่ามาที่ดวงตา แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ยังคงพูดในจิตใจของฉันต่อไป
“เราต้องการให้เจ้านำการอธิษฐานต่อไป แต่เจ้าจะไม่เป็นผู้นำในฐานะบุคคลที่เจ้าต้องการให้ทุกคนเห็นว่าเจ้าเป็นคนในแบบที่เจ้าคิด เจ้าไม่เห็นหรือ เราไม่ได้มองหาบุคคลที่มานำรายการเป็นผู้ที่ปกปิดบาปของเขาเองและดำเนินการต่อไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรามองหาภาชนะแตกหักที่ยอมจำนน ภาชนะที่ถ่อมตนในระดับที่ความทะนงตนหายไป ด้วยเหตุฉะนี้เราจึงใช้พวกเขาเพื่อพระสิริของเรา เราทราบว่าสิ่งนี้จะทำให้เจ้าเจ็บ แต่เจ้าจำเป็นต้องแบ่งปันให้กับที่ประชุมในสิ่งที่เราได้ให้เจ้าตระหนักเห็นเมื่อคืนนี้ จงสัตย์ซื่อในสิ่งที่เจ้าทำให้เราผิดหวัง แล้วจงเชื้อเชิญคนในที่ประชุมให้เดินไปยังกางเขนกับเจ้า นำบาปและการประนีประนอมตรึงไว้ที่นั่น เจ้าเห็นไหมว่า ถ้าคนเราคอยจนกว่าจะพร้อมแล้วจึงเข้ามา พวกเขาก็ไม่มีวันที่จะเข้ามาเลย”
ฉันเริ่มทักท้วงอีกครั้งว่า “ข้าพระองค์ทำไม่ได้หรอก พระเจ้าข้า ทุกคนจะคิดอย่างไรหากเขารู้ในสิ่งที่ข้าพระองค์ทำให้พระองค์ต้องผิดหวัง”
พระวิญญาณบริสุทธิ์พูดอย่างอ่อนโยนในจิตใจของฉัน ในขณะที่พระองค์ทรงให้ฉันหันไปยังสวรรค์ “ไม่สำคัญหรอกว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร ไม่ได้เกี่ยวกับการปกป้องชื่อเสียงของเจ้า แต่เกี่ยวกับการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า แต่พระองค์จะทำงานผ่านเจ้าได้ เจ้าต้องถ่อมตัวลงก่อน”
โอ้ ฉันไม่อยากเชื่อฟังการดลใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในเช้าวันนั้นเลย ถ้าฉันวิ่งหนีเหมือนโยนาห์ได้หรือคลานเข้าไปอยู่ในถ้ำได้ ฉันก็จะทำทันที แต่ฉันรู้ว่าฉันต้องทำอย่างไร ฉันต้องเชื่อฟัง
ฉันไปยืนอยู่ต่อหน้าคนเป็นร้อยในเช้าวันนั้นและแบ่งปันสิ่งที่พระเจ้าได้จัดเตรียมไว้ในใจฉันด้วยตัวสั่นและน้ำตาคลอ ทุกคนฟังอย่างเงียบสงบ หากเข็มหล่นก็คงได้ยิน ฉันกล่าวอย่างนุ่มนวลว่า “พระเยซูตรัสบอกให้เราเข้าหาพระองค์ในแบบที่เราเป็น” และกล่าวต่อไปพร้อมกับเช็ดน้ำตาว่า “ดังนั้น ฉันจึงได้มาในแบบที่ฉันเป็นและขอเชิญชวนทุกท่านให้มาร่วมกับฉันที่ใต้กางเขน”
ตามคำเชิญนี้ ทุกคนลุกออกจากเก้าอี้และเดินมาข้างหน้าห้อง มีเสียงร้องไห้เบา ๆ โดยรอบในขณะที่แต่ละคนขอการอภัยบาปและการประนีประนอมที่คลืบคลานเข้ามาในชีวิต พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตอยู่ที่นั่น หนังสือเคล็ดลับแห่งความสุขบอกเราไว้ว่า
“หากท่านมองเห็นบาปในตัวท่าน อย่ารีรอที่จะทำตัวเองให้ดีก่อน มีสักกี่คนที่คิดว่าตนเองยังดีไม่พอที่จะมาหาพระคริสต์ ท่านหวังที่จะเป็นคนดีขึ้นด้วยความพยายามของตัวท่านเองหรือ ‘คนคูชเปลี่ยนสีผิวของตนเอง หรือเสือดาวเปลี่ยนลายของมันได้หรือ ถ้าได้แล้วพวกเจ้าผู้ที่เคยชินต่อการทำความชั่วจึงจะมาทำความดีได้’ เยเรมีย์ 13:23 การช่วยเหลือมีไว้ให้แก่เรา เป็นการช่วยเหลือซึ่งจะพบได้ในพระเจ้าเท่านั้น เราจะต้องไม่คอยให้มีการเรียกร้องมากกว่านี้ คอยโอกาสที่ดีกว่านี้ หรือคอยให้มีอารมณ์ที่บริสุทธิ์กว่านี้ โดยลำพังตัวเราเองแล้ว เราจะทำอะไรไม่ได้เลย เราจะต้องเข้ามาหาพระคริสต์ในสภาพที่เป็นอยู่” (Steps to Christ หน้า 31)
ฉันคิดว่านี่เป็นการประชุมอธิษฐานที่หวานหอมและศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเท่าที่ฉันเคยประสบมา เพราะพระเจ้าทรงกระทำการอันล้ำลึกในการชำระล้างเราทั้งหมดในเช้าวันนั้น จิตใจหลายดวงได้แตกสลาย แต่การทรงรักษานั้นช่างงดงามยิ่งนัก ในพระธรรมสดุดี 51:17 บอกกับเราว่า “เครื่องบูชาที่พระเจ้าทรงรับได้คือจิตใจที่ชอกช้ำ จิตใจที่สำนึกผิดและชอกช้ำนั้น ข้าแต่พระเจ้า พระองค์มิได้ทรงดูถูก”
วันนี้ท่านเสาะหาของถวายอะไรแก่พระเจ้า เป็นการงานที่ดีที่สุด คำอธิษฐานที่ดีที่สุด ความพยายามอย่างเต็มที่ในการเป็นพยานที่แข็งแกร่งแม้อยู่ท่ามกลางเหตุการณ์สั่นสะเทือนในชีวิตของท่านหรือไม่ ของถวายที่ดีที่สุดของเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลงานของเรา แต่เป็นการแตกสลายของตัวท่านเอง การแตกสลายต่อการทะนงตนและการแตกสลายต่อการพึ่งพาตนเองอย่างสมบูรณ์แบบในขณะที่เราเข้ามาถึงเชิงการเขน เหมือนอย่างเพลงสรรเสริญ พระเป็นมหาศิลา กล่าวไว้อย่างงดงามว่า “ข้าไม่มีสิ่งใดในมือ เพียงแค่ยึดมั่นในกางเขน” วันนี้ จงยึดมั่นในกางเขนนั้นเถิด
เมโลดี้ แมสัน เป็นผู้ประสานงานโครงการ “United in Prayer” ที่สำนักงานใหญ่ เธอยังช่วยในเรื่องของการพัฒนาทรัพยากรสำหรับเว็บไซต์การฟื้นฟูและการปฏิรูปอีกด้วย ริเริ่มและเป็นผู้เขียน “Daring to Ask for More: Divine Keys to Answered Prayer” เรื่องหนุนใจสัปดาห์นี้นำมาจากหนังสือที่เพิ่งออกใหม่ของเธอในเดือนเมษายน ชื่อว่า “Daring to Live by Every Word: Loving God with Heart, Body, Mind and Soul”
คำถามตรึงใจ
พระเจ้าอยู่ที่ไหน (ดูอิสยาห์ 57:15) และผลของความเสียใจอย่างที่ชอบพระทัยพระเจ้าคืออะไร (ดู 2 โครินธ์ 7:9-11) ดาวิดขออะไรในคำอธิษฐานแห่งการกลับใจใหม่ของเขา (ดูสดุดี 51:1-19) เปรียบเทียบดูว่าซาอูลตอบสนองอย่างไรเมื่อถูกตำหนิเพราะบาป (ดู 1 ซามูเอล 15:1-30) บุคคลในพระคัมภีร์ใดที่ท่านเป็นเหมือนที่สุดเมื่อท่านมองเห็นบาปของท่าน บุคคลที่พยายามพิสูจน์ตัวเองและรักษาเกียรติจากผู้อื่น หรือบุคคลที่ยอมรับบาปอย่างเปิดเผยด้วยจิตใจที่แตกสลายและกลับใจใหม่อย่างแท้จริง
ท้าทายจิตใจ
ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ให้ท่านอ่าน “ความงดงามแห่งการถ่อมตน” ด้วยการอธิษฐาน เราไม่ควรประเมินเพียงแค่การเริ่มต้นของการเดินทางฝ่านจิตวิญญาณ แต่เราควรประเมินตลอดทางเดินนั้น ในขณะที่ท่านทำการท้าทายจิตใจ ให้ท่านถามพระเจ้าว่า มีความทะนงตนอะไรบ้างในชีวิตของท่านที่ท่านยังไม่ยอมจำนน หรือบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดท่าน (ครอบครัว เพื่อน ผู้ร่วมงาน) ที่ท่านต้องขอการอภัย ให้เชื่อฟังปฏิบัติตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (สดุดี 66:18, มัทธิว 5:23-24, สดุดี 28:13, มัทธิว 6:14-15)
“ไม่ว่าสายตาของมนุษย์จะเห็นว่าการกระทำผิดนี้หรือการกระทำผิดโน้นจะเล็กน้อยเพียงไรก็ตาม ไม่มีบาปใดเล็กน้อยในสายพระเนตรของพระเจ้า การตัดสินของมนุษย์นั้นลำเอียง ไม่สมบูรณ์ แต่พระเจ้าประเมินทุกสิ่งตามความเป็นจริง คนขี้เมาจะถูกดูหมิ่นและถูกตราว่าบาปของเขาจะทำให้เขาไม่มีส่วนในแผ่นดินสวรรค์ ในขณะที่ความหยิ่งยโส ความเห็นแก่ตัวและความโลภมักจะไม่ถูกตำหนิ แต่พระเจ้าทรงรังเกียจบาปเหล่านี้มาก เพราะบาปเหล่านี้มีลักษณะตรงข้ามกับพระลักษณะนิสัยของพระองค์ ที่มีแต่ความกรุณ เป็นความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว ซึ่งบรรยากาศที่แท้จริงของจักรวาลที่ไม่ล้มลงในบาปจะเป็นเช่นนี้ ผู้ที่ได้ทำบาปที่ยิ่งใหญ่กว่าอาจจะรู้สึกอับอายและขัดสน และเข้าต้องการพระคุณของพระคริสต์ แต่ความทะนงทำให้เขาไม่รู้สึกถึงความต้องการของตนเอง เข้าจึงปิดประตูหัวใจให้กับพระคริสต์และปฏิเสธพระพรมากมายที่พระองค์เสด็จมาเพื่อประทานให้แก่เขา” (Steps to Christ หน้า 30)
คำรายงานที่น่าสรรเสริญ
มาร์ลิน กล่าวว่า “เราสรรเสริญพระเจ้า ในช่วง 100 วันแห่งการอธิษฐานเผื่อการแพร่ระบาดของโรค พระเจ้าได้ประกันให้เรามีงาน อาหาร และที่พักอาศัย พระเจ้าได้ทรงช่วยให้เราเชื่อและตัดสินใจย้ายออกไปอาศัยในชนบท นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงให้ฉันมีโอกาสเป็นพยานให้กับชุมชนมุสลิมด้วย”
โมเสส กล่าวว่า “ขอบคุณที่อธิษฐานเผื่อเรา พระเจ้าทรงได้ยินคำอธิษฐานของท่านแล้ว น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก ในช่วงระยะเวลาการปิดประเทศในนามีเบีย มีคนประมาณ 1,100 คนได้ลงทะเบียนเรียนพระคัมภีร์ และใน 70% นั้นไม่ได้เป็นคริสเตียนเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีส”
หัวข้ออธิษฐาน
1. อธิษฐานเผื่อนักเรียนทั่วโลกที่ทำงานไม่ได้เนื่องจากการปิดประเทศ อธิษฐานเพื่อพระเจ้าจะทรงจัดเตรียมวิธีการช่วยเหลือด้านการเงินในการจ่ายค่าเล่าเรียน
2. อธิษฐานเผื่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว ทั่วโลกอ
3. อธิษฐานเผื่อครอบครัวของ อเล็กซานเดอร์ ออสแทนกิน ผู้เป็นศาสนาจารย์ที่ถูกสังหารขณะที่เขาทำงานรับใช้พระเจ้า อธิษฐานเพื่อพระเจ้าจะทรงเปลี่ยนเลือดของผู้สละชีวิตนี้เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งข่าวประเสริฐ
4. อธิษฐานเผื่อผู้ที่ต่อสู้กับโควิด-19 อธิษฐานเผื่อการทรงรักษา
ร่วมส่งคำอธิษฐานของท่าน
0 Comments